fbpx

จัดจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์ข้อมูลโครงการฯ

ที่ีปรึกษาวิเคราะห์ข้อมูล web

ขอบเขตการจ้างที่ปรึกษา (Term of Reference)

สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

1. หลักการและเหตุผล
ด้วยตระหนักถึงปัญหาอัตราการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้มีการออกพระราชบัญญัติป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 เพื่อตอบสนองในการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มเยาวชนตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ อันได้แก่การให้ความรู้เรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศ ไปจนถึงการส่งเสริม เพิ่มการเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์ที่เป็นมิตรกับกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มเยาวชน อย่างไรก็ดี จากการศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2561 โดยความร่วมมือของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ พบว่าในทางปฏิบัติ เยาวชนจากกลุ่มที่มีความเปราะบางยังไม่สามารถเข้าถึงความรู้และบริการดังกล่าวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนพิการซึ่งต้องพบกับอุปสรรคทั้งทางร่างกายและการถูกตีตราจากสังคมเมื่อเข้ารับความรู้และ/หรือบริการอนามัยเจริญพันธุ์ จากการศึกษายังพบอีกว่าไม่มีหลักสูตร ชุดความรู้ที่ให้ข้อมูลความรู้เรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละกลุ่มความพิการ ซึ่งเป็นปัจจัยให้กลุ่มเยาวชนพิการไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิที่ทางเพศที่ถูกต้องอันนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ เช่นการตั้งครรภ์ไม่พร้อม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบและวิเคราะห์หลักสูตรการให้ความรู้เรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่มีอยู่ กับความต้องการของเยาวชนพิการ
2. เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการจัดทำหลักสูตรที่เหมาะสม ในการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเยาวชน ที่มีความพิการทางสายตา พิการทางการได้ยิน พิการทางการเคลื่อนไหว พิการทางสติปัญญา
3. เพื่อให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้เรื่องอนามัยเจริญพันธ์และสิทธิทางเพศ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเยาวชนพิการทางสายตา ทางการได้ยิน ทางการเคลื่อนไหว และทางสติปัญญา ในลำดับต่อไป

3. ขอบเขตการดำเนินงาน
3.1 ศึกษาข้อมูลแนวปฏิบัติสากลทางวิชาการเรื่องเพศวิถีศึกษาขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization UNESCO)
3.2 รวบรวมข้อเสนอแนะและข้อมูลจากกลุ่มเยาวชนพิการทางสายตา พิการทางการได้ยิน พิการทางการเคลื่อนไหว และพิการทางสติปัญญาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละกลุ่มความพิการ จากเวทีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการที่สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ เป็นผู้จัดขึ้น
3.3 วิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อหาช่องว่างหรือประเด็นที่ยังขาดหายไปในแนวปฏิบัติสากลทางวิชาการเรื่องเพศวิถีศึกษาขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ UNESCO
3.4 นำเสนอผลการศึกษา และข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมกับเยาวชนพิการ
3.5 จัดทำรายงานนำเสนอผลการศึกษา ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมกับเยาวชนพิการ

4. งบประมาณ 85,000 บาท

5. เงื่อนไขการจ้างงาน
5.1 ระยะเวลาดำเนินงานภายในระยะเวลา 4 เดือน ในปี พ.ศ. 2562 นับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา
5.2 การเสนอผลงาน

5.2.1 งวดที่ 1 จัดส่งและนำเสนอรายงานขั้นต้นของผลการศึกษาจากข้อ 3.1 ข้อ 3.2 ข้อ 3.3 และ ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมกับเยาวชนพิการทางสายตา พิการทางการได้ยิน พิการทางการเคลื่อนไหว และพิการทางสติปัญญาเพื่อพิจารณา
5.2.2 งวดที่ 2 จัดส่งรายงานผลการศึกษา และข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์และสิทธิทางเพศที่เหมาะสมกับเยาวชนพิการที่สมบูรณ์แล้ว จำนวน 5 ชุด พร้อมแผ่นซีดีบันทึกข้อมูล จำนวน 5 ชุด

6. การเบิกจ่ายเงินตามสัญญา การเบิกจ่ายค่าจ้างจะแบ่งเป็น 3 งวดคือ
งวดที่ 1 กำหนดจ่ายค่าจ้างร้อยละ 40 ของเงินค่าจ้างทั้งหมดภายหลังการลงนามในสัญญาจ้างภายใน 20 วันนับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา
งวดที่ 2 กำหนดจ่ายค่าจ้างร้อยละ 20 ของเงินค่าจ้างทั้งหมดภายหลังการลงนามในสัญญาจ้างและภายหลังการส่งมอบงานงวดที่ 1 ที่มีผลงานครบถ้วนตามข้อ 5.1 ภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา
งวดที่ 3 กำหนดจ่ายค่าจ้างร้อยละ 40 ของเงินค่าจ้างทั้งหมดภายหลังการลงนามในสัญญาจ้างและภายหลังการส่งมอบงานงวดที่ 2 ที่มีผลงานครบถ้วนตามข้อ 5.2 ภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา

7. ข้อสงวนสิทธิ์
7.1 ผลงานต่างๆทั้งในรูปแบบเอกสารและ CD-Rom เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ
7.2 สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ สงวนสิทธิ์ที่จะบอกเลิกจ้างในกรณีที่ที่ปรึกษาไม่สามารถส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 5 การนำเสนอผลงานด้วยเหตุผลอันสมควรและหากที่ปรึกษาไม่สามารถส่งมอบงานตามที่กำหนดแล้ว ที่ปรึกษาจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นรายวัน ในอัตรา ร้อยละ 0.1 ของวงเงินค่าจ้างตามสัญญา

ผู้สนใจสามารถยื่นเอกสารแสดงความประสงค์ พร้อมแนบประวัติและผลงานที่เกี่ยวข้อง

มายังสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ เลขที่ 8 ซอยวิภาวดีรังสิต 44 ถนนวิภาวดีรังสิต

แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900   โทรศัพท์ 0-2941-2320 ต่อ 131,135 (ส่วนงานบริหาร) 

หรือทาง E-mail : ppat.bkk@gmail.com   

ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562

TAGS

ข่าวสารและกิจกรรม

คลินิกเวชกรรม สวท ขอนแก่น ร่วมกับ โรงพยาบาลจังหวัดขอนแก่น โรงพยาบาลอำเภอน้ำพอง โรงพยาบาลอำเภออุบลรัตน์ โรงพยาบาลอำเภอกระนวน และ ศูนย์เครือข่ายเพื่อนพนักงานบริกา…
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 มิถุนายน) แพทย์หญิงนันทา อ่วมกุล เลขาธิการสมาคมฯ นำคณะกรรมการ สมัยที่ 16 คณะกรรมการที่ปรึกษา สวท และเจ้าหน้าที่ สวท ร่วมบันทึกเทปถวาย…

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า